การทำการตลาดในเฟสบุ๊ค (Facebook Marketing) สิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน ยอดขายติดปีก ล่องลมบน
การทำการตลาดในเฟสบุ๊ค Facebook Marketing การเขียนคำอธิบายแบบสั้นๆ แม้เป็นหูฟังที่ไม่มีชีวิตคุณก็ต้องทำให้มันมีชีวิตชีวา ผมไม่ได้บอกว่าผมเขียนดี เขียนเก่ง ผมแนะนำให้คุณทำและอยากให้คุณทำได้ ถ้าทำเองไม่ได้ มีทุนก็จ้างใครสักคน ไม่แน่ในอนาคตผมอาจเปิด กิจการรับทำงานเหล่านี้ให้กับพวกคุณ
การทำการตลาดในเฟสบุ๊ค (Facebook Marketing)
สำหรับผมแล้วการเขียนข้อมูลลงบนตัวสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ ประโยชน์ของมันคือ ไม่ว่าคุณเขียนอะไรในโซเชี่ยลมีเดียในเว็บไซต์หรือที่ใดก็ตามในอินเตอร์เน็ตเชื่อเถอะว่ามีคนอ่านเสมอ การเข้าใจฟังก์ชั่นการทำงานที่คุณใช้งานของโซเชี่ยลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คก็สำคัญ
ไม่ว่าจะเรื่องการโพสกระบวนท่าไหนๆ มันมี เทคนิคของมัน ที่หลากหลาย ทั้งโพสแบบแชร์อัติโนมัติ โพสแบบแชร์ธรรมดา โพสแบบอัติโนมัติจากการโพสที่อัลบัมภาพ โพสอัติโนมัติจากการโพสโน๊ต
การตลาดเฟสบุ๊ค เนื้อหาบทความสามารถเขียนได้ทั้งสั้นและยาวขึ้นอยู่กับคุณจะใช้ประโยชน์อะไร ผมใช้ดึงเพจวิวคนเข้าชมสินค้าให้เยอะขึ้นแบบเน้นเป็นพิเศษและส่งคนไปยังเว็บไซต์หลัก
การแนบลิ้ง ของเว็บไซต์ให้ผู้สนใจติดตามไปชมข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ก็เป็นเรื่องสำคัญ การมีที่อยู่ที่ครบถ้วนในโพสหรืออัลบัมที่สำคัญก็เป็นสิ่งจำเป็น อย่าลืมว่าสินค้าของคุณต้องบอก รูปร่าง ชื่อ ลักษณะ และสี รวมทั้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ลูกค้าควรรู้ หากเห็นว่าเยอะไปที่จะใส่ที่โพส คุณควรใส่ไว้ในเว็บ ให้ลูกค้าตามไปอ่านข้อความ คุณต้องมีรูปภาพประกอบเสมอขาดไม่ได้
การให้ลูกค้าตามไปที่เว็บเพิ่มจำนวนเพจวิวให้เว็บนั้น ทำเพื่อลูกค้าจะได้เข้าไปสู่หน้าที่มีอาวุธพร้อมรบของเราๆ ที่ลูกค้าจะเห็นข้อมูลต่างๆที่จะทำให้เขาเพลิดเพลินไปกับการช็อปปิ้ง ด้วยสีสรรเว็บไซต์และการออกแบบที่สวยงามด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มความรู้สึกเชิญชวนให้อยากซื้อเพิ่มขึ้น
การจะเล่าเรื่องการทำการตลาดในเฟสบุ๊ค Facebook Marketing นั้น เขาเขียนหนังสือร่ายยาวได้เป็นเล่มๆ อ่านยังไงก็ไม่หมด ผมคิดเสมอว่าการเขียนเป็นศิลปะ การเขียนให้คนซื้อของได้นั้น คุณไม่จำเป็นต้องเก่ง ให้คุณเข้าใจจุดขาย ที่จะช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์นั่นคือสิ่งสำคัญ
คุณต้องประยุกต์การเขียนเชื้อเชิญให้ดูน่าซื้อน่าใช้นี้ลงในตัวสินค้าของคุณถ่ายทอดข้อมูลว่าสินค้าของคุณดีอย่างไรเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างไร ดีกว่าคู่แข่งอย่างไร เปรียบเทียบได้จากแหล่งไหนแต่ไม่ใช่เป็นการโจมตีคู่แข่งเพียงแต่ต้องมีแหล่งที่เชื่อถือได้ในการชี้วัด
เราสามารถใช้วิธีระดมสมองของผู้ทำธุรกิจที่รู้และชำนาญในสินค้าเขียนให้เราได้ ซึ่งหลายๆสินค้าที่ผมทำให้เขาเหล่านั้นผมใช้วิธีการให้เขาเขียนและแนบรูปภาพส่งมาให้โดยมีการแนะนำว่าเขาควรจะเขียนในลักษณะไหนให้ครอบคลุมเนื้อหาด้านไหน ผมไม่ได้เก่งในตัวสินค้า เขาขายมาหลายปี บางท่านอาจเป็นสิบปี สิ่งที่ผมรู้คือเขาควรจะถ่ายทอดมันออกมาอย่างไร และพวกเขาก็มักทำมันได้ดีทีเดียวและพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งผมนึกสนุก ผมก็จะช่วยเขาเขียนด้วย แค่บางครั้ง เพราะแค่โพสให้ถูกหลักการให้มีคนเข้าชมเยอะ ก็ใช้เวลาแล้ว
การโพสแต่ละครั้งในเฟสบุ๊คหรือบนหน้าเว็บถ้าเป็นสินค้ารหัสหรือชนิดที่สำคัญหรือหน้าไหนสำคัญเป็นพิเศษ สำหรับ SMEs หรือ SMBs แล้ว ควรจะเน้นใส่เนื้อหาหน้านั้นให้เยอะๆ และ ทำให้ถูกต้องตามหลักที่จะนำคนเข้ามาชมเว็บไซต์ได้ เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากโครงสร้างเว็บ หากคุณเลือกใช้ไม่ดีวางไม่ดี ก็เสียตั้งแต่เริ่มแล้ว ถ้าคุณทำมันไม่เป็นคุณก็ต้องจ้างผู้รู้ทำและเว็บที่ต้องใช้การเขียนโค๊ด ค่าจ้างแพง อับเดทข้อมูลทีเปลี่ยนอะไรทีเป็นเงินทั้งนั้น หากคนที่อับเดทให้ไม่มีความรู้ หน้าเว็บของคุณหน้านั้นก็ไม่มีคนเข้าชมหรือเข้าชมน้อย (ไม่ได้บอกว่าแบบจ้างคนเขียนโค๊ดไม่ดี ข้อดีข้อเสียต่างกัน จะไม่ลงลึกในหน้านี้ เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเลือกระบบที่ผมอับเดทเองได้ สร้างเองได้ วางระบบที่ผมต้องการเองได้ในหลายๆส่วน) เฟสบุ๊คก็เหมือนกันคุณอับเดทเองได้และถ้าอับเดทได้ดีแล้ว ลูกค้าก็ไม่หนีไปไหน ไม่ต้องจ้างให้คนมากด LIKE
หลายกูรูพูดกันซ้ำๆว่า คนกด LIKE ถ้าไม่ใช่คนที่ใช่ก็ไม่มีประโยชน์ นั่นคือเรื่องจริง สมมติ คุณขายสินค้าที่มีมูลค่าถึง 1 ล้านบาท ปีนี้อยากได้ เดือนละล้าน คุณขอคนที่ใช่มากดและดูรายละเอียดรวมทั้งติดต่อมาแค่เดือนละคนก็พอ แต่คนที่ใช่มักปะปนอยู่กับคนที่ไม่ใช่ สำหรับสินค้าหรือบริการที่ไม่ได้ต้องการให้คนทั่วไปมากระหน่ำกด LIKE ให้แล้ว เขาไม่สนใจยอดกดเลย เขาสนใจเงินที่เขาได้ครับ ผมเคยทำเฟสบุ๊คให้กับร้านอะไหล่รถยนต์เจ้าหนึ่ง คนกด LIKE ไม่ถึง 1,500 แต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแบบธรรมชาติ ผมใช้เว็บไซต์ ที่เกี่ยวข้องในการดึงลูกค้าและกรองลูกค้าให้เข้ามาติดตามผ่านเฟสบุ๊คได้คนที่สนใจมาจริงๆและเป็นลูกค้าจริงๆ ที่มีโอกาสซื้อในเดือนนั้นๆและในอนาคตจริงๆ สังเกตุได้ว่า ยอดขายของร้านอะไหล่เพิ่มขึ้นครับอย่างต่อเนื่อง จากเดือนละ 1-2 หมื่น เป็นเดือนละ 50,000 – 100,000 บาท
การตลาดเป็นจุดที่คุณสามารถจ้างคนดูแลได้ แต่คุณต้องคุยรายละเอียดว่าเขาทำอะไรให้กับคุณได้บ้างและตกลงกันเพราะเทคนิคมีหลายแบบ แบบที่ใช้งบประมาณและไม่ใช้งบประมาณโฆษณา ซึ่งผมทำได้ทั้งสองแบบ
26/9/2013 Jade ANS